พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ อดีตกองกลาง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เผยความในใจหลังปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลในถิ่น บีจี สเตเดี้ยมไว้ที่ 13 ปี ก่อนจะเปลี่ยนบทบาทเตรียมรับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชในฤดูกาล 2022/23
มิดฟิลด์วัย 37 กะรัต ย้ายมาค้าแข้งกับสโมสรธนาคารกรุงไทย เมื่อปี 2007 ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบันเมื่อปี 2009 โดยคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัยและเอฟเอ คัพ 1 สมัย ตลอดระยะเวลาการค้าแข้ง 20 ปี
“ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนหน้านี้ แต่ว่ามันก็ต้องถึงเวลา ใจหายเหมือนกันนะ เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้วเคยคิดเหมือนกันว่าคงรับได้ แต่พอเข้าสถานการณ์จริง ๆ ก็มีแว๊บ ๆ หนึ่ง” พีรพงศ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสโมสร
BGPU“วินาทีที่โดนเปลี่ยนตัวออก ในหัวก็ได้แต่คิดว่าน่าจะเป็นการเล่นอาชีพครั้งสุดท้ายแล้ว มันย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผมแล้วกันที่ได้มาเล่นแมตช์สุดท้ายในบ้านต่อหน้าแฟนบอล บีจี ถือว่าคุ้มแล้วครับ”
“ตลอด 13 ปีที่ผ่านมากับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผมมาก ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของผม และผมเองก็รู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบีจีแห่งนี้”
นัดต่อไป
“ขอขอบคุณแฟนบอล บีจี ทุกคนครับ และทีมงานสต๊าฟโค้ชที่คอยซัพพอร์ตผมมาตลอด รวมถึง คุณ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ครับ ที่เห็นคุณค่าในตัวผมและให้โอกาสผมมาเสมอ หลังจากนี้ผมยังไม่ได้ไปไหนครับ ยังคงอยู่ซัพพอร์ตทีม บีจี เหมือนเดิม เพียงแค่ในบทบาทและหน้าที่ใหม่”
“สุดท้ายนี้ อยากจะขอบคุณฟุตบอลนะครับ ที่ทำให้ผมและทุก ๆ คนได้มาเป็นพี่น้องกันครับ”
นอกจากนี้ 'เจ้าเบนซ์' ได้ให้สัมภาษณ์กับ โกล ประเทศไทย ในงานโครงการ 'ล้านลูก ล้านพัลง สร้างฝันเด็กไทย' ของบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่จังหวัดสิงห์บุรี ถึงเรื่องการถูกดันขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ช มาโกโตะ เทกุระโมริ ฤดูกาลหน้าและการขยับขึ้นไปเป็นกุนซือในอนาคตเอาไว้ว่า
“ผมจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดครับ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายเหมือนกันและก็สนุกน่าดูครับ ผมว่าผมพร้อมที่จะทำงานตรงนี้ครับ"
"ผมขอมองที่ปัจจุบันก่อนดีกว่าครับ เพราะว่ามันเป็นงานใหม่ด้วย ก็พยายามจะโฟกัสไปทีละอย่างก่อน และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ”
BGPU
