Royston Drenthe Real MadridGetty

เกิดอะไรขึ้นกับ รอยสตัน เดรนเธ? จากดาวโรจน์เรอัล มาดริด สู่แข้งดิวิชัน 4 สเปน ผู้ล้มละลาย

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 รอยสตัน เดรนเธ คงไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะตกต่ำถึงขั้นต้องมาเล่นในดิวิชัน 4 ของสเปน เหมือนเช่นทุกวันนี้

นักเตะชาวดัตช์เคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของวงการฟุตบอลยุโรป หลังจากที่เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี แถมยังได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ เรอัล มาดริด ก็ไม่พลาดที่จะคว้าตัวเขามาร่วมทีม

จากนั้นอีก 10 ปี เขากลายเป็นนักเตะผู้อื้อฉาวที่เคยมีวีรกรรมสบถใส่เดวิด มอยส์ ตอนอยู่เอฟเวอร์ตัน แถมยังเคยโดนกล่าวหาว่าเหยียดผิวใส่ลิโอเนล เมสซี

อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจุบัน ด้วยวัย 33 ปี เขากลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง หลังจากเลิกเล่นไปพักใหญ่เพื่อเป็นศิลปินแร็พ แต่แทนที่จะอยู่กับสโมสรใหญ่ๆ ในยุโรปเหมือนอย่างที่เคยคาดหวัง เขากลับต้องเล่นในดิวิชัน 3 ฮอลแลนด์ รวมถึงดิวิชัน 4 สเปน

เดรนเธ เริ่มต้นสร้างชื่อในวงการฟุตบอลกับเฟเยนูร์ด ก่อนจะกลายเป็นสตาร์คนสำคัญในทีมชาติรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี ทำให้มีหลายสโมสรในยุโรปเริ่มจับตามองเขาอย่างใกล้ชิด

"ในตอนนั้น ผมได้ยินมาว่ามีถึง 16 สโมสรที่สนใจในตัวผม" เดรนเธกล่าวทาง Four Four Two “ผมได้คุยกับโจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรบาร์เซโลนา รวมถึงเปแดร็ก มิยาโตวิช ผู้อำนวยการฟุตบอลของเรอัล มาดริด ด้วย

"มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้เจอเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแทบทุกสโมสรเลย ส่วนใหญ่พวกเขาพร้อมจะยื่นข้อเสนอให้ผม 5 ปี พร้อมเงื่อนไขที่คล้ายๆ กัน

"ทันทีที่ผมได้ยินว่าเรอัล มาดริด ให้ความสนใจ ผมก็แทบจะตัดสินใจได้ในทันที ผมตื่นตาตื่นใจไปกับทุกๆ อย่างในสโมสร เสน่ห์ในสโมสรเรอัล มาดริด มันเหมือนอย่างที่คุณเห็นในหนังเรื่อง Goal! มันเป็นสิ่งที่ผมอยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่ง"

Royston Drenthe Real MadridGetty

เดรนเธตกลงเซ็นสัญญากับทีมราชันชุดขาวด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโร และได้ประเดิมสนามในเกมพบเซบีญาในซูเปอร์คัพ และสร้างชื่อได้อย่างรวดเร็วด้วยการยิงประตูตีเสมอให้ทีมจากระยะไกล

แม้จะอยู่ท่ามกลางบรรดานักเตะบิ๊กเนมแห่งวงการฟุตบอล แต่ดาวรุ่งชาวดัตช์ก็ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่และเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรวดเร็วทีเดียว

"ทุกคนให้การต้อนรับผมอย่างอบอุ่น กูตีดีกับผมมากตั้งแต่แรกๆ และเขาคือตำนานของมาดริด" เดรนเธกล่าว

"ผมสนิทกับโรบินโญในทันทีที่มาถึงที่นี่ บางครั้ง ผมก็ไปหาเขาที่บ้าน ซึ่งเขาเปลี่ยนห้องใต้ดินในบ้านให้เป็นไนท์คลับขนาดย่อมๆ"

อย่างไรก็ดี ในปี 2009 เรอัล มาดริด ได้ตัวมาร์เซโลเข้ามา ทำให้เดรนเธไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก และต้องถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับเอร์กูเลสในปี 2010

อย่างไรก็ดี การตกชั้นและไม่ถูกกับฝ่ายบริหารของสโมสร แสดงให้เห็นว่าการยืมตัวครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จนัก ทำให้เดรนเธต้องย้ายไปอยู่เอฟเวอร์ตันเป็นเป้าหมายต่อมา

แม้จะมีสัญญาณที่ดีอยู่บ้างในอังกฤษ แต่ตัวริมเส้นชาวดัตช์ก็กลับมามีปัญหากับเดวิด มอยส์ กุนซือท็อฟฟี่สีน้ำเงิน หลังจากที่เข้าร่วมประชุมทีมก่อนเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศสาย

"ผมรออยู่นอกห้อง ทั้งที่ผมน่าจะเดินเข้าไปหาที่นั่งเงียบๆ" เดรนเธเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

"ตอนที่ผมเดินเข้าไปหลังจากนั้น มอยส์ตะโกนด่าใส่ผม ซึ่งผมน่าจะยอมรับมัน แต่ผมกลับด่าสวนเขาออกไป

"แล้วจากนั้น ผมก็หนีไปอยู่ฮอลแลนด์และไม่ได้กลับมาอีกเลย"

จากนั้น เดรนเธก็ไม่ได้กลับไปอยู่กับมาดริดอีก สัญญาของเขาหมดลงในเดือนมิถุนายน 2012 และต้องมองหาสโมสรใหม่

DrentheGetty Images

จากประเทศสเปน เดรนเธย้ายไปอยู่ในรัสเซียกับ Alania Vladikavkaz ซึ่งเป็นการย้ายทีมที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับทุกคน

เดรนเธยิงแฮตทริคได้จากการลงสนาม 6 นัดให้สโมสรแห่งนี้ แต่เขาก็ค้าแข้งอยู่ในรัสเซียไม่นาน เมื่อเรดดิ้งตัดสินใจดึงเขากลับมาอยู่อังกฤษในปี 2013

อดีตดาวรุ่งชาวดัตช์อยู่กับเรดดิ้งได้เพียง 1 ฤดูกาล ก่อนที่เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ จะเข้ามาคว้าตัวเขาไปด้วยสัญญายืมตัว และเป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

เดรนเธต้องไปอยู่ในตุรกี รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนที่จะตัดสินใจแขวนสตั๊ดเพื่อหันหน้าสู่วงการแร็พ หลังจากหันหลังให้วงการฟุตบอลนาน 18 เดือน เขาตัดสินใจวางไมค์และกลับไปสวมรองเท้าสตั๊ดอีกครั้ง คราวนี้เริ่มต้นกับทีมในดิวิชันสองของฮอลแลนด์อย่าง สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม

เขาเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุด ด้วยการยิง 5 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ แม้ว่าจะได้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายเป็นหลัก

ด้วยวัย 32 ปี เขากลับไปเล่นในลีกสูงสุด แต่กลับไม่พร้อมรับความกดดันของฟุตบอลในดิวิชันหนึ่ง จึงได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ โคซัคเคน บอยส์ กับดิวิชันสามแทน

ล่าสุดในเดือนมกราคม 2021 เดรนเธย้ายทีมอีกครั้ง คราวนี้เขาไปอยู่กับ ราซิง มูร์เซีย ทีมในดิวิชัน 4 ของสเปน และยังไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นัดเดียว

"ผมไม่เคยเสียดายเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นมาด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ผมไม่เสียดายในเรื่องใดๆ เพราะผมมีความสุขกับที่ที่ผมอยู่ และผมก็มีความสุขกับที่ที่ผมเคยอยู่ ผมใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

"ผมก็เป็นแค่รอยสตัน ผมก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไป"

โฆษณา