Antonio Cassano InterGetty Images

เกิดอะไรขึ้นกับ อันโตนิโอ คาสซาโน? อัจฉริยะลูกหนังผู้ทำลายพรสวรรค์ของตัวเอง

"ผมเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในรอบหลายๆ ปี ก่อนที่จะโยนทุกอย่างทิ้งไป เป็นอัจฉริยะป่าเถื่อนผู้ทำลายกฎทุกอย่าง เรื่องมันไปไกลมาก และผมก็ข้ามเส้นหลายครั้งจนเกินไป"

ถ้าจะมีใครสักคนที่รู้ว่าอันโตนิโอ คาสซาโน โยนพรสวรรค์ในตัวทิ้งไปมากแค่ไหน คนนั้นก็คือตัวเขาเอง

ดาวรุ่งผู้สร้างชื่อในกัลโช เซเรีย อา อย่างรวดเร็วกับบารีและโรมา ก่อนจะกลายเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกถึงสองสมัยในปี 2001 และ 2003

ผลงานในสนามเป็นไปอย่างสวยหรูสำหรับ คาสซาโน ในวัยหนุ่ม เช่นเดียวกับปัญหานอกสนามที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ประเดิมสนามให้ทีมชาติอิตาลีเมื่อปี 2003 คาสซาโนตกเป็นข่าวว่ามีปัญหากับฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือจอมเฮียบของโรมาในเวลานั้น จนกระทั่งเขาถูกปล่อยตัวไปอยู่กับเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม 2006

อย่างไรก็ดี พฤติกรรมนอกสนามของคาสซาโนก็ยังเป็นปัญหาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อคาเปลโลย้ายตามเขามาคุมเรอัล มาดริด เขาก็ถูกปล่อยตัวไปอยู่กับซามพ์โดเรีย ทั้งที่ยังเล่นในสเปนได้ไม่ถึงสองฤดูกาลดี

การต้องออกจากทีมราชันชุดขาวในตอนนั้น คือสิ่งที่คาสซาโนรู้สึกว่าเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

"สิ่งที่ผมเสียดายที่สุดคือการไม่ได้ฉวยโอกาสเพื่อจะได้เล่นให้สโมสรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในวัยเพียง 23 ปี กับเพื่อนร่วมทีมอย่างซีเนดีน ซีดาน และโรนัลโด้" คาสซาโนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทาง Sky Sport Italia ในภายหลัง

"ผมโยนโอกาสครั้งใหญ่ทิ้งไปที่เรอัล มาดริด ผมแทนที่หลุยส์ ฟิโก้ และไมเคิล โอเวน ได้อย่างมีประสิทธิ์ ก็แสดงว่าผมก็มีดีอยู่ แต่ผมสร้างปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า

"คาเปลโลตามเข้ามาที่เรอัล มาดริด หลังจากนั้น ผมลดน้ำหนักไป 16 กิโลในระหว่างซ้อม ยิงได้ 2 ประตู จาก 3 นัด แล้วเขาก็ให้ผมนั่งสำรองในเกมนัดที่สี่

"ผมเสียสติไปเลย ถ้าคุณไม่เคารพคาเปลโล เขาก็ตัดคุณออก เขายังให้โอกาสผมหลังจากนั้นอีก เขาทำอะไรเพื่อผมมามาก แต่ผมแทบไม่เคยตอบแทนอะไรเขาเลย"

กลับมาอิตาลี คาสซาโนคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง แต่ก็ยังได้ขึ้นพาดหัวข่าวด้วยเหตุผลผิดๆ อยู่บ่อยๆ - หนึ่งในนั้นคือการปาเสื้อใส่ผู้ตัดสินในปี 2008 หลังโดนไล่ออกในนัดพบโตริโน

นอกจากนี้ เขายังมีปัญหากับประธานสโมสรจากกรณีที่ไม่ยอมเข้าร่วมงานประกาศรางวัลประจำปี ซึ่งทำให้ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับซามพ์โดเรียลงเอยไม่ค่อยสวยนัก

2019-11-02 Cassano AntonioGetty Images

"ผมมีความสุขมากที่ซามพ์โดเรีย ผมได้รู้จักคนที่ในวงการฟุตบอลรู้จักกันดีว่าเป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง นั่นคือท่านประธานสโมสร ริคคาร์โด้ การ์โรเน" คาสซาโนเปิดเผยทาง Corriere dello Sport เมื่อปี 2017

"สิ่งที่ผมทำกับเขาคือสิ่งที่ผมเสียใจที่สุดในด้านชีวิตส่วนตัวของผม และผมไม่เคยยกโทษให้ตัวเองเลย ผมดีใจที่ก่อนเขาตาย เราได้เคลียร์กันแล้ว"

จากซามพ์โดเรีย คาสซาโนย้ายไปอยู่เอซี มิลาน และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะมีปัญหาเรื่องโรคหลอดเลือดสมอง จนต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ 

หลังจากพักอยู่ข้างสนามอยู่ 6 เดือน คาสซาโนก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ก่อนจะมีปัญหากับวอลเตอร์ มาซซารี จนโดนปล่อยตัวไปอยู่กับปาร์มาในปี 2013

คาสซาโนทำผลงานได้ดีที่นี่ ยิงได้ 18 ประตู รวมทุกรายการ ตลอด 18 เดือนกับทีมปาร์มา ก่อนจะต้องอำลาทีมในเดือนมกราคม เพราะสโมสรประสบปัญหาเรื่องการเงินจนค้างค่าเหนื่อยนักเตะ

ซามพ์โดเรียดึงเขากลับไป แต่หลังจากยิงได้เพียง 2 ประตู จาก 25 นัดในฤดูกาล 2015-16 คาสซาโนกับสโมสรก็ตกลงยกเลิกสัญญากันในช่วงต้นปี 2017 

หลังจากระเห็จระเหเร่ร่อน ไปอยู่กับ เฮลลาส เวโรนา รวมถึงกับเวอร์ตุส เอ็นเตลลา ในช่วงบั้นปลายของชีวิตค้าแข้ง ในที่สุดเขาก็ประกาศแขวนสตั๊ดในช่วงปลายปี 2018 อย่างเป็นทางการ

"ฟุตบอลให้อะไรผมมามาก มันเปิดโอกาสให้ผมได้เจอคนที่ยอดเยี่ยมมากมาย ได้เจอสุดยอดแชมเปี้ยน และได้เจอคนธรรมดา มันฉุดผมขึ้นมาจากข้างถนน ให้ผมได้มีครอบครัวที่วิเศษ และเหนือสิ่งอื่นใด มันทำให้ผมได้สนุกกับอะไรหลายๆ อย่าง" คาสซาโนระบุในถ้อยแถลงวันแขวนสตั๊ดของเขา

"จนถึงวันนี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมได้ดูเกม ผมก็ยังหลงใหลไปกับมัน มันคือกีฬาที่ดีที่สุดในโลก

"ผมรู้ดี ถ้าผมมีนิสัยอีกแบบ ผมก็คงจะได้แชมป์มากกว่านี้ เล่นได้ดีกว่านี้ แต่เชื่อผมเถอะว่า ถึงอย่างไร ผมก็ยังได้พบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และวันนี้ก็เหลือแต่สิ่งที่มีอยู่จริงๆ เท่านั้น นั่นคือครอบครัวของผม, เพื่อนๆ และผมไม่รู้สึกเสียดายอะไรทั้งนั้น"

โฆษณา