เกิดอะไรขึ้นกับ ออสการ์? จากอนาคตเชลซี สู่ชีวิตค้าแข้งบนแผ่นดินจีน

บรรดาแข้งดาวดังสโมสรในยุโรปหลายคนเลือกย้ายไปค้าแข้งในไชนีส ซูเปอร์ ลีก (CSL) ในช่วง 2010 เป็นต้นมา ซึ่งราวกับความฝันของเหล่านักฟุตบอลที่ต้องไปกอบโกย

ทว่าด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการจำกัดการใช้เงินของสโมสรในลีกจีน บีบให้นักเตะอย่าง เซดริค บากัมบู ไปจนถึง แอนโธนี โมเดสต์ ย้ายกลับมาถิ่นที่คุ้นเคย

ทว่ายังมีหนึ่งชื่อที่ยังคงอยู่ในเอเชีย ซึ่งบางทีเขาอาจเป็นนักเตะที่มีชื่อโด่งดังมากที่สุดในบรรดานักเตะที่พากันย้ายมาด้วยซ้ำ นั่นคือ ออสการ์ แล้วทำไมเขาถึงไม่ย้ายกลับมาเล่นในยุโรปล่ะ?

ออสการ์ เซ็นสัญญาย้ายร่วมทีม เชลซี ในซัมเมอร์ปี 2012 และประสบความสำเร็จในการเล่นที่อังกฤษ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2015 เช่นเดียวกับแชมป์ลีก และ ยูโรป้า ลีก

ออสการ์ ได้ลงสนามเป็นตัวหลักในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แม้ในเวลานั้นมีการเปลี่ยนกุนซือหลายต่อหลายคนตลอด 4 ฤดูกาลครึ่งของเขา ทั้ง โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, ราฟาเอล เบนิเตซ, โจเซ มูรินโญ, กุส ฮิดดิ้งส์ และ อันโตนิโอ คอนเต้

เขาคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของสโมสรถึง 2 ครั้ง จากการยิง 38 ประตูรวมทุกรายการให้กับทีมตลอดช่วงการค้าแข้งกับสิงห์บลูส์ ลงสนามแทบจะทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ รวมถึงตัวรุกจากกุนซือทุกคนที่เลือกใช้งานเขา

Getty/GOAL

การอยู่ในทีมของ ออสการ์ เป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับ เชลซี เมื่อพวกเขาจำใจปล่อย เควิน เดอ บรอยน์ เพื่อให้แนวรุกบราซิเลียนได้เฉิดฉาย ทว่ายิ่งวันเวลาผ่านไปยิ่งดูเหมือนการตัดสินใจนี้จะผิดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยความขยันในการเล่นทำให้เขาถอยลงต่ำลงเรื่อยๆ  จนไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งที่สร้างสรรค์เกมได้ในแบบที่สโมสรวาดฝันไว้ตอนเซ็นสัญญาเขามาร่วมทีม

ทว่า เขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก และเข้ารอบลีกในรายการยุโรป ทว่าเกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้นเมื่อเขาเลือกย้ายร่วมทีม เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2017

ในเวลานั้นเขาเพิ่งอายุ 25 ปี ยังเหลืออีกหลายปีให้เขาไปถึงจุดพีคของอาชีพหากยังค้าแข้งในยุโรป และยิ่งอยู่กับเชลซี

เขาเลือกย้ายไปค้าแข้งในประเทศจีนแบบช็อควงการลูกหนัง ทว่าตัวเลขยิ่งช็อคหนักยิ่งกว่า ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 67 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อย 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าเหนื่อยสูงสุดเป็นอันดับห้าของโลกในเวลานั้น

ออสการ์ เปิดเผยอยู่เสมอว่าเงินคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจครั้งนี้ เขามาจากครอบครัวยากจนในบราซิล ถูกเลี้ยงมาโดยคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่เขาสามขวบ และเขาต้องการหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อดูแลครอบครัวของเขาไปตลอดชีวิต

ยิ่งในเวลานั้น เขายิ่งกลายเป็นส่วนเกินของ เชลซี ไปทุกขณะ เมื่อ คอนเต้ เลือกเปลี่ยนมาใช้แผน 3-4-3 โดยมี เชสก์ ฟาเบรกัส และ เอ็นโกโล ก็องเต้ ปักหลักเป็นสองคู่หูมิดฟิลด์ โดยมี เอเด็น อาซาร์ และ เปโดร ขนาบริมเส้น

แล้วผลงานของ ออสการ์ ในจีนเป็นอย่างไรบ้างล่ะ? เหมือนว่าเขาจะไม่ได้พกฟอร์มที่ดีที่สุดไปเอเชียด้วย และนั่นทำให้การตัดสินใจปล่อยตัวของเชลซียิ่งดูสมเหตุสมผล

Getty/GOAL

ผลงานที่ดีที่สุดของ ออสการ์ คือปี 2018 ที่เขาทำ 12 ประตู พา เซี่ยงไฮ้ คว้าแชมป์ลีกมาครอง และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล

ทว่า สถิติการทำประตูและโทรฟีแชมป์ห่างเหินจากเขาไปนับตั้งแต่นั้น เมื่อเขาทำได้เพียง 5 ประตู จากแต่ละสองฤดูกาลหลังสุด และทีมของเขาดีที่สุดเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ในปี 2021

ที่น่าสนใจคือ ออสการ์ ยังคงเลือกอยู่จีนต่อไป แม้ว่านักเตะคนอื่นที่ย้ายมาโกยเงินในช่วงลีกบูมสุด ๆ อย่าง อั๊กเซล วิตเซล และ ยานนิค การ์รัสโก้ ย้ายกลับไปค้าแข้งในยุโรปกันหมดแล้ว

ตรงกันข้าม ออสการ์ เลือกต่อสัญญาใหม่ซึ่งจะไปหมดในปี 2024 และมีการพูดกันเรื่องโอนสัญชาติมาเล่นให้กับทีมชาติ หลังจากเขาไม่ได้ลงสนามให้ทีมชาติบราซิลนับตั้งแต่ปี 2016

ออสการ์ เผยกับ Sportscene “แน่นอน ผมคิดถึงมันอยู่เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะติดทีมชาติบราซิลเพราะผมมาเล่นที่นี่ แต่ในประเทศจีนทุกคนรู้ดีว่าผมเล่นได้ดีแค่ไหน

“ทีมชาติจีนต้องการกองกลางที่ดีหนึ่งคน ดังนั้นผมคิดว่าผมช่วยเรื่องนี้ได้ ผมชอบประเทศจีนนะ แต่นักเตะที่ตอนนี้จะย้ายมาเล่นในจีนต้องเปลี่ยนสัญชาติ พวกเขาทำได้ดีแน่นอน”

ในตอนนี้ในวัย 30 ปี ออสการ์ กำลังมองหาทางกลับมาเล่นในยุโรปอีกครั้ง และไม่ลังเลที่จะประกาศเรื่องนี้ออกมาผ่านสื่อ

Goal/Getty

เขาเคยบอกไว้ในเดือนกันยายน 2020 ว่าอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง ดาวิด ลุยซ์ และ วิลเลียน ต้องการตัวเขาที่อาร์เซนอล ทว่าด้วยความที่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในทีมของ มิเกล อาร์เตต้า แล้ว ทำให้เขาอาจมองหาตัวเลือกอื่นแทน

ในปี 2021 เขาเคยพูดถึงเชลซีสโมสรเก่าไว้ว่า “ผมสร้างเรื่องราวที่สวยงามไว้ที่นั่น และการไปพรีเมียร์ลีกในตอนที่ยังเด็กมาก ๆ ในเวลานั้นแฟนบอลไม่เชื่อในฝีเท้านักเตะบราซิลสักเท่าไหร่

“ผมช่วยเปลี่ยนความคิดนั้น ผมอาจแก่ขึ้นมาหน่อยแต่ผมจะพยายามย้ายทีมอีกครั้ง ในตอนที่ผมยังเล่นได้ดี มีสถิติที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกว่ายังมีที่สำหรับผมที่เชลซี” ออสการ์ เผยกับ Yellow and Green Football ในเดือนมกราคมปีนั้น

“ผมคิดถึงการแขวนสตั๊ดที่เชลซีนะ เพราะผมมีช่วงเวลาดี ๆ ที่นั่น” เขาเผยกับ talkSPORT ไม่กี่เดือนต่อมา เขาพูดถึงการย้ายทีมกับ GOAL ไว้ว่า “ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเชลซี ผมมีความผูกพันอันแนบแน่นกับสโมสรและแฟนบอล

“ดังนั้นเมื่อสัญญาของผมหมดลง มันจะเป็นหนึ่งในสโมสรที่ผมจะพิจารณาอย่างจริงจัง”

ในเดือนมกราคมปี 2022 เขาเผยว่า เขากำลังเจรจากับ บาร์เซโลนา และพร้อมที่จะหั่นค่าเหนื่อยเพื่อให้การย้ายทีมเกิดขึ้น

มันคงจะดีถ้า ออสการ์ ย้ายกลับมาเล่นในยุโรป ทว่าในวัยหลัก 30 และสถิติการทำประตูที่ขาดหาย กับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ที่โดนผลกระทบทางการเงินทำให้การย้ายไปร่วมยอดทีมของยุโรปอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขา