เกิดอะไรขึ้นกับ อังเดร โวโรนิน? อดีตแข้งลิเวอร์พูลที่บอกลาดินาโม มอสโก หลังรัสเซียบุกยูเครน

อังเดร โวโรนิน ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม ดินาโม มอสโก สโมสดังของประเทศ รัสเซีย ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

สาเหตุแห่งการแยกทางกันของทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่ามาจากเหตุ รัสเซีย รุกรานและโจมตีใส่ ยูเครน จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

“ผมไม่สามารภทำงานในประเทศที่กำลังทิ้งระเบิดใส่บ้านเกิดของผมได้” โวโรนิน เผยกับ Bild

“หยุดไอ้ห่*ปูตินที ช่วยเหลือผู้อพยพ และส่งอาวุธมาให้พวกเราสามารถป้องกันตัวได้”

“ผมภาคภูมิใจในประเทศของเรา เรามีเมืองที่สวยงาม, ผู้คนที่ยอดเยี่ยม เราจะสู้ต่อไป และเราจะพบกับชัยชนะ แต่ราคาที่ต้องแลกก็สูงเช่นกัน”

“ทุกชีวิตที่สูญเสียไป เราอยู่ในปี 2022 แล้ว ไม่ใช่สงครามโลกครั้งที่สอง”

ทาง โวโรนิน และครอบครัว ได้บินอพยบออกมาจากเมือง มอสโก ได้ทันเวลา และตอนนี้พวกเขาปลอดภัยอยู่ในเมือง ดุสเซดอร์ฟ ประเทศ เยอรมนี

หากพูดถึง เส้นทางการค้าแข้งของเขา โวโรนิน ถือเป็นหนึ่งในนักเตะยูเครนที่ประสบความสำเร็จบนเวทียุโรป ทั้งในบุนเดสลีกาและการมีโอกาสได้มาค้าแแข้งในพรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พูล

เด็กชายผู้เกิดใน โอเดสซา แต่ย้ายมาใช้ชีวิตในเยอรมนีตั้งแต่วัยรุ่น ก่อนเข้าเป็นนักเตะเยาวชนในศูนย์ฝึกของโบรุสเซีย มึนเชนกัดบลัค ซึ่งแม้จะทะลุขึ้นชุดใหญ่มาได้ แต่เขาก็ถูกปล่อยตัวให้ ไมนซ์

หลังจากนั้น เขาระเบิดฟอร์มเป็นดาวซัลโวในลีกา 2 จนถูกเรียกติดทีมชาติ ยูเครน ชุดใหญ่ ก่อนจะได้เล่นในบุนเดสลีกา กับ โคโลญจน์ และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน โดยเขามีส่วนสำคัญในการพาทีม ยูเครน เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2006

Getty/GOAL

ก่อนที่ต้นปี 2007 เขาตกลงย้ายมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว หลังหมดสัญญากับทัพห้างขายยา

“เขาสามารถเล่นในตำแหน่งหลังกองหน้า ทำเกมในพื้นที่ของเขา หรือสอดโจมตีจากพื้นที่ด้านข้างได้ด้วย” ราฟา เบนิเตซ บรรยายสรรพคุณของ โวโรนิน เอาไว้

เขาดูจะไปได้สวยในถิ่นแอนฟิลด์ ก่อนที่อาการบาดเจ็บข้อเท้าจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาขาดความต่อเนื่องและความมั่นใจ

สุดท้าย ด้วยปัญหาต่างๆ  รวมทั้งกำแพงภาษา ที่เจ้าตัวยอมรับว่าสำเนียงสเกาเซอร์ คืออุปสรรค์สำคัญในการปรับตัว “สำเนียงสเกาซ์ ผมไม่เข้าใจมันเลย ภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เมื่อต้องฟัง เจมี (คาร์ราเกอร์) และ (สตีเวน) เจอร์ราร์ด พูด ผมต้องบอกให้เขาพูดซ้ำเป็นอังกฤษจริงๆ อีกที” โวโรนิน เผยกับ GOAL เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

“ลิเวอร์พูล ไม่เหมาะกับผมเท่าไหร่ในฐานะเมือง แม้ว่ามันจะมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตัวอย่างเช่น เดอะ บีเทิลส์ พ่อผมเป็นแฟนตัวยงของวงนี้ ตอนที่ผมบอกเขาว่าผมจะเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล เขาถึงกับร้องไห้ออกมาเลย”

“ผมไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศ รวมถึงจังหวะของเกมที่ไม่มีการเบรคหนีหนาวได้ ผมต้องเดินทางและลงสนามไปเรื่อย ๆ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เหนื่อยล้ามาก ๆ”

Getty/GOAL

ในฤดูกาลต่อมา โวโรนิน ถูกปล่อยให้ แฮร์ธา เบอร์ลิน ยืมตัวไปร่วมทีม ก่อนจะเซ็นสัญญาถาวรในเดือนมกราคมปี 2010 ปิดฉากการลงสนาม 40 เกม ให้กับ ลิเวอร์พูลในช่วง 2 ปีครึ่ง

โดย โวโรนิน เคยจำกัดความเกมพรีเมียร์ลีกไว้กับ Daily Mail เมื่อปี 2010 ไว้ว่า “ในอังกฤษ มันเหมือนการนองเลือด”

“ถ้าเกมไหนไม่มีนักเตะเลือดตกยางออก หรือไม่มีการปะทะที่ศีรษะจนหมดสติหรือเสียบกันขาแทบหลุด แฟนบอลจะรู้สึกขาดทุน เกมนั้นจะอับเฉา”

“จังหวะของเกมมันบ้ามากตั้งแต่นาทีแรกจนสิ้นเสียงนกหวีดจบเกม : การทุ่มเทอย่างสุดพลัง, บรรยากาศสุดจะบรรยายในสนาม”

“แต่เรื่องแท็กติคของทีมส่วนใหญ่มันธรรมดามาก : โยนบอลยาว 50 หลา ฉวยโอกาสทำประตูใส่คู่แข่ง”

ช่วงปลายอาชีพ โวโรนิน ย้ายมาร่วมทีม ดินาโม มอสโก ทีมที่เขาแขวนสตั๊ดและรับงานเป็นโค้ชต่อมา จนกระทั่งมีการรุกราน ยูเครน ของ รัสเซีย จนทำให้ทั้งสองฝ่ายแยกทางกันในที่สุด