เส้นทางอาชีพของ โจวานนี ดอส ซานโตส เรียกได้ว่ามีทั้งช่วงเวลาที่ดีที่สุดและต่ำที่สุด ในวัย 33 ปี เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์มานานกว่าหนึ่งปี หลังโดน อเมริกา ทีมดังในลีกเม็กซิโกปล่อยตัวในซัมเมอร์ปี 2021
ดูเหมือนกับว่าเราจะไม่ได้เห็นเขาลงเล่นในฟุตบอลระดับสูงอีกแล้ว น่าเสียดายกับฝีเท้าและพรสวรรค์ของเขาที่ครั้งหนึ่งถูกยกย่องเป็นอย่างมาก และมันกำลังจะดับลงในไม่ช้า
เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้าที่สามารถลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก, ปีก และกองหน้าตัวเป้า ทำให้เขามีความโดดเด่นในเรื่องการทำประตูและแอสซิสต์
เขาย้ายมาเข้าร่วม ลา มาเซีย อคาเดมี่ของ บาร์เซโลนา ในวัย 13 ปี ก่อนโชว์ฟอร์มโดดเด่นและเลื่อนขึ้นสู่ทีมชุด เบ ในวัย 18 ปี หนึ่งปีต่อมา และได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในเดือน กันยายน ปี 2007 ลงสนามมาแทน เธียร์รี อองรี ในครึ่งหลังของเกมเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 3-1
ในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล, เขา กดแฮตทริกพา บาร์ซา เอาชนะ เรอัล มูร์เซีย 5-3 ในตอนนั้นอนาคตของเขากับทีมยิ่งแจ่มแจ้งชัดเจน แต่ทว่าในอีกแง่หนึ่ง มันกลายเป็นจุดจบของเขาในถิ่นคัมป์ นู
ปัญหาใหญ่ของ ดอส ซานโตส คือเขาเล่นในตำแหน่งเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี - การแย่งตำแหน่งที่เขาหรือว่าใครก็ไม่มีทางเอาชนะได้ ประกอบกับเด็กระเบิดจาก ลา มาเซีย อีกหนึ่งคน, โบยาน เกรกิช ที่โชว์ฟอร์มกด 10 ประตูในฤดูกาลเปิดตัวของเขา ทำให้โอกาสของดาวเตะเม็กซิโกลดน้อยลงไปอีก
ทว่า เขายังถูกพูดถึงในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของโลก แม้เขาจะเลือกย้ายออกจากทีมในปี 2008 เพื่อหาโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่
ดอส ซานโตส ย้ายไปร่วมทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ และโดนปล่อยยืมตัวเสียเป็นส่วนใหญ่กับ อิปสวิช, กาลาตาซาราย และ เรอัล ซานตานเดร์
Goal/Gettyอีกทั้ง เขายังโดนกุนซือที่เซ็นสัญญาเขามาร่วมทีม ท็อตแนม อย่าง ฆวนเด้ รามอส ทิ้งไว้กลางทาง เมื่อเขาโดนปลดในเดือนตุลาคม ปี 2008 หลังทำผลงานสุดย่ำแย่
กุนซือชาวสแปนิช ถูกแทนที่โดย แฮร์รี เรดแนปป์ ที่ไม่ชอบ ดอน ซานโตส เลยแม้แต่น้อย แถมยังตำหนิแข้งรายนี้ออกสาธารณะเรื่องการชอบปาร์ตี้และมาซ้อมสายเป็นประจำ
“ถ้าเขาส่งบอลได้ดีเหมือนผ่านไนท์คลับ เขาอาจเป็นนักเตะที่ใช้ได้ก็ได้นะ” เรดแนปปส์ เผยกับ Daily Star ในปี 2010
“พ่อและแม่ของเขามาพบกับผมเมื่อปีที่แล้ว และกล่าวคำขอโทษเพราะพวกเขารู้ดีว่าเขาไม่ทุ่มเทมากพอ
“เขามีสกิลและทักษะเต็มกระเป๋า แต่ทันใดนั้น เขาก็จะมาสายในเช้าวันจันทร์, หงุดหงิดบ้าง, ปวดท้องบ้าง เขาน่าจะไปบาร์ตี้บาร์เซโลนาที่ไหนสักแห่งนั้นแหละ
“ถึงอย่างนั้น เขามีฟอร์มในฟุตบอลโลกที่ยอดเยี่ยมนะ ถ้าเขาทำงานหนักในปีนี้ เขาอาจกลายเป็นยอดนักเตะก็ได้”
นอกจากนี้ ความหลากหลายในเกมรุกของ ดอส ซานโตส มันกลายเป็นดาบสองคม
เขาเล่นได้ดีที่สุดในฐานะกองหน้าตัวที่สอง เมื่อยามเขาถอยไปรับบทเพลย์เมคเกอร์เขากลับสร้างสรรค์โอกาสได้น้อยกว่าที่ควร, หรือบทบาทปีกตัดเข้าในที่เขามักหุบเข้ามากเกินไป, หรือตำแหน่งปีกซ้ายที่เขามักยืนชิดเส้นข้าง จนโดนตัดออกจากเกมไป
ท้ายที่สุด, ดอน ซานโตส ย้ายกลับสเปนไปร่วมทีม มายอร์ก้า ในปี 2012 แบบไม่มีค่าตัว และกลับมาทำผลงานน่าประทับใจ เป็นดาวซัลโวของทีมทำ 6 ประตูจาก 32 นัดในฤดูกาลที่ทีมตกชั้น
การกลับมาคืนฟอร์มหนนี้ทำให้เขาได้ย้ายไปร่วมทีม บียาร์เรอัล ที่เขาได้โอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในเกมระดับสูงเสียที ซึ่งการได้เล่นสองฤดูกาลติดต่อกันกับทีมเดิม เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับตัวเขา
อย่างไรก็ตาม เขาทำเซอร์ไพรส์แฟนบอลเม็กซิโกที่หวังจะเห็นเขาโลดแล่นในยุโรปได้ยาวนานกว่านี้ ด้วยการเลือกย้ายไปร่วมทีม แอลเอ กาแล็คซี ในวัย 26 ปี
ถึงอย่างนั้น ฟอร์มของเขายังดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเคยมีชื่อลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2015 มาแล้ว เป็นเพียงหนึ่งในสองนักเตะเมเจอร์ลีกที่เคยทำได้ ร่วมกับ อันเดรีย ปีร์โล ตอนอยู่ นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี
นอกจากนี้ เขายังเป็นนายแบบขึ้นปกเกม FIFA แบบ Special Edition ของ MLS อีกด้วยในปี 2016 และ 2017
Goal/Getty“มันยอดเยี่ยมมากที่ได้อยู่ในลิสต์นั้นกับเหล่าสุดยอดนักเตะของโลก” ดอส ซานโตส พูดถึงการติดรายชื่อเข้าชิงฯบังลงดอร์ของเขา
“ผมมีความสุขมาก ๆ ที่ได้รับใช้ประเทศและทีมของผม ผมภาคภูมิใจ ผมทำงานมาอย่างหนัก ซึ่งมันเซอร์ไพรส์ผมมากนะ ผมมีความสุขมากจริง ๆ”
การถอยห่างออกมาจากไลฟ์สไตล์ชอบปาร์ตี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาหันหลังในฟุตบอลยุโรปมาที่นี่ นอกเหนือจากนั้นคือเขาต้องการมาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวและโฟกัสฟุตบอลของเขา
“ผมจะพูดแบบเปิดอกเลยนะ ผมชอบอยู่บ้าน” เขา เผยกับ GOAL ในปี 2018 “ผมแค่ไปซ้อมแล้วก็กลับบ้าน ผมชอบอยู่บ้านกับครอบครัว การได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ของผมและได้ใช้ชีวิตกับพวกเขา
“ผมชอบดูหนัง, ชอบอ่านหนังสือ ผมค่อนข้างสุขุมนะในมุมนั้น ผมคิดว่าผมมาถึงจุดหนึ่งที่ผมมองชีวิตแตกต่างออกไป ผมมีความสุขกับมัน ผมอยากผ่อนคลายกับคนที่ผมมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน”
อย่างไรก็ตาม ดอน ซาสโตส ถูก กาแล็คซี ปล่อยตัวในปี 2019 หลังจากต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บถึง 2 ปี ก่อนที่จะได้มาเล่นในแผ่นดินเกิดเป็นหนแรกกับทีม อเมริกา
แม้ว่าเส้นทางของ ดอส ซานโตส ไปได้ไม่สวยอย่างที่คาดในเกมระดับสโมสรเท่าที่ควร เขาประสบความสำเร็จในเกมระดับทีมชาติ
เขาเริ่มต้นจากการช่วย เม็กซิโก คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก U17 ในปี 2005 ด้วยการทำ 8 แอสซิสต์จากทั้งหมด 16 ประตูตลอดทัวร์นาเมนต์ของทีม และคว้ารางวัลลูกบอลเงินในฐานะนักเตะยอดเยี่ยมอันดับสองประจำทัวร์นาเมนต์ รองจาก แอนเดอร์สัน
ทัวร์นาเมนต์แรกกับทีมชาติชุดใหญ่ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เมื่อเขาได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำรายการ คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ปี 2009 รายการที่ทีมไปคว้าแชมป์ได้บนแผ่นดินอเมริกา ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพ 5-0
และพวกเขาคว้าความสำเร็จนี้ได้อีกครั้งในสองปีต่อมา ด้วยการเอาชนะ สหรัฐอเมริกา 4-2 พร้อมประตูของ ดอส ซานโตส กับลูกชิพสุดเหนือชั้นในเกมนัดชิงฯ ซึ่งเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวอีกด้วย
มันเป็นประตูสุดล้ำค่าอย่างแท้จริง เมื่อเขาโฉบมารับบอลในกรอบเขตโทษก่อนดึงจังหวะหนี ทิม ฮาเวิร์ด นายประตูลุงแซม โยกหนีแนวรับคู่แข่งอีกจังหวะแล้วตักบอลด้วยซ้ายย้อยเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลไปแบบหมดจด
ความสำเร็จสูงสุดระดับทีมชาติของเขามาในปี 2012, เม็กซิโก คว้าเหรียญทองโอลิมปิกที่ลอนดอน
ดอส ซานโตส กดไป 3 ประตูในรายการนี้ รวมถึงประตูชัยในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับ เซเนกัล ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทว่าอาการบาดเจ็บในเกมรอบรองชนะเลิศกับ ญี่ปุ่น ทำให้เขาพลาดลงสนามในเกมนัดชิงฯกับ บราซิล
นอกจากนี้ ดอส ซานโตส เคยไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกับ เม็กซิโก 3 ครั้ง แม้เขาจะไม่สามารถช่วยทีมผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เป็นเหมือนอาถรรพ์ที่หลอกหลอนพวกเขามาตั้งแต่ปี 1994
พวกเขาใกล้เคียงที่สุดในปี 2014 ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของกองหน้ารายนี้ พาทีมขึ้นนำครึ่งหลังในเกมที่พบ เนเธอร์แลนด์ แต่ทว่าพวกเขาเสียสองประตูในช่วง 6 นาทีสุดท้าย กลับมาพ่ายไป 1-2
แม้จะเพิ่งวัย 30 ปีต้น ๆ แต่ดูเหมือน ดอส ซานโตส จะไม่ได้ไปฟุตบอลโลกหนที่สี่ของเขากับทีมชาติที่กาตาร์ปลายปีนี้ เนื่องจากเขาไม่เคยประสบความสำเร็จหรือมีฟอร์มที่โดดเด่นกับ อเมริกา รวมทั้งเคยเจ็บนักในเกมที่พบกับ ชิวาส กัวดาลาฮารา
เขาเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์มาตั้งแต่มิถุนายน 2021 หลังถูกเมินโดย ซานติอาโก้ โซลารี กุนซือคนใหม่ ซึ่งมีข่าวลือที่เขาจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง
เรื่องภายในครอบครัวของเขานับเป็นปัจจัยหลัก หลังจากเสียชีวิตกระทันหันของคุณพ่อของเขา - ซิซินโญ อดีตนักเตะบราซิเลียน หนึ่งเดือนหลังโดน อเมริกา ปล่อยตัวออกจากทีม ด้วยโควิด-19 ในวัย 59 ปี แน่นอนว่ามันส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อตัวเขา
และแล้ว ปาร์ตี้บอย ในตัวเขามันก็กลับมาอีกครั้ง
มีรายงานในอเมริกา ระบุว่า เขาเกือบจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งในปี 2022 หากมีเงื่อนไขอนุญาตให้เขาปาร์ตี้โดยไม่มีปาปารัสซีโผล่มากวนใจเขา แต่เราก็ยังไม่ได้เห็นว่าจะมีดีลแบบนี้เกิดขึ้น
ดังนั้น หากเราจะดูคลิปการทำประตูเก่า ๆ ของเขาต่อไปเรื่อย ๆ เรามาหวังว่าจะมีลูกยิงสวย ๆ เพิ่มมาจากเขาอีกในอนาคตกันดีกว่า
