David BeckhamGetty

50 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับชายที่ชื่อ “เดวิด เบ็คแฮม”

เดวิด เบ็คแฮม ตำนานนักเตะชาวอังกฤษเป็นหนึ่งในบุคคลมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ทั้งในด้านของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และในด้านของการเป็นเซเลบริตี้คนดังแห่งยุค

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าพ่อฟรีคิกคนนี้มีอิทธิพลอย่างมากทั้งในและนอกสนาม เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนเคยตัดผมตามนักเตะคนนี้ หรือไม่ก็เล่นทีมชาติอังกฤษ, แมนฯยูไนเต็ด, เรอัล มาดริดเวลาเล่นวินนิง อีเลฟเวนเพียงเพื่อจะได้บังคับนักเตะคนนี้

วันนี้ GOAL มี 50 เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับกองกลางระดับโลกคนนี้มาฝาก รับรองเลยว่าหลายเรื่องจะเป็นเรื่องที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนแน่นอน

อ่านบทความต่อด้านล่าง
David Beckham 1993Getty

1.ตอนที่ เบ็คแฮม อายุ 11 ขวบ เขาได้รับรางวัลจากโรงเรียนฝึกสอนฟุตบอล บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ให้ไปฝึกซ้อมกับบาร์เซโลนา และที่นั่นเองที่เขาโชว์ฟอร์มเข้าตาแมวมองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

2.หลังกลับมาจากยืมตัวที่เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ เบ็คแฮม ได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกขวาและพาแมนฯยูไนเต็ดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตบรางวัลให้อย่างงาม

3.ในช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียงใหม่ ๆ เบ็คแฮม ซึ่งเป็นคนลอนดอนตะวันออก จะมีโทนเสียงที่สูงกว่าคนอื่น เขาเลยเข้าคอร์สเรียนการพูดโดยเฉพาะ เพื่อปรับปรุงสำเนียงและฝึกพูดให้เสียงต่ำลง

4.เบ็คแฮม พบ วิคตอเรีย นักร้องวงสไปซ์ เกิร์ลส์ ที่เลานจ์ของแมนฯยูไนเต็ด หลังเกมการกุศลเมือปี 1997 และเธอคนนี้ก็กลายมาเป็นภรรยาของเขาในปัจจุบัน

5.ในเวลานั้น วิคตอเรีย โด่งดังอยู่แล้วจากการเป็นเกิร์ลกรุ๊ป แต่ เบ็คแฮม ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จในฐานะนักฟุตบอลมากนัก

6.ภาพยนตร์เรื่อง “Bend it like Beckham” ที่ออกฉายเมื่อปี 2002  นำแสดงโดยพาร์มินเดอร์ นากราและเคียรา ไนท์ลีย์ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เบ็คแฮม ผู้เป็นที่จดจำจากการปั่นฟรีคิกไซด์โค้งเพื่อทำประตู

7.จุดเปลี่ยนในชีวิตของ เบ็คแฮม เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 1998 เกมที่ทีมชาติอังกฤษพบกับทีมชาติอาร์เจนตินา ในขณะที่ยังเสมอกันอยู่ 2-2 ดิเอโก้ ซิเมโอเน ชนเขาล้มลง แต่ เบ็คแฮม ยกเท้าไปเกี่ยวกองกลางอาร์เจนไตน์ จนถูกผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกจากสนาม และเกมนั้นทัพสิงโตคำรามเป็นฝ่ายแพ้จุดโทษตกรอบไปในที่สุด เขาเลยกลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้จากสื่อและแฟนบอล

simeone - beckham

8.เบ็คแฮม รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ถึงขนาดออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณะว่า “ผมเสียใจกับการกระทำของผม ผมอยากให้แฟนบอลรู้ว่าผมรู้สึกผิดมากขนาดไหนกับสิ่งที่ผมทำ”

9.แม้ว่าจะผิดหวังกับทีมชาติอังกฤษ แต่ เบ็คแฮม ก็เป็นกำลังสำคัญของแมนฯยูไนเต็ดช่วงปลายยุค 90 ช่วยทีมคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ในปี 1999 และกลายเป็นกองกลางที่โด่งดังระดับโลกตลอด 8 ปีที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำไป 62 ประตู จาก 264 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย

10.วิคตอเรีย ตั้งชื่อเล่นให้สามีของเธอว่า “Golden Balls” เราเองก็ไม่กล้าเดาเหมือนกันว่าทำไมถึงชื่อนี้

11.ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 1999 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพบกับบาเยิร์น มิวนิค เบ็คแฮม เป็นคนเปิดลูกเตะมุมอันนำไปสู่ประตูชัยจาก เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม และ โอเล กุนนาร์ โซลชา พาปีศาจแดงพลิกกลับมาคว้าแชมป์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

12.เบ็คแฮม เป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษคนแรกที่ได้ใบแดง 2 ใบ และเป็นกัปตันคนแรกที่โดนไล่ออกจากสนาม

13.ในปี 1999 เดวิด และ วิคตอเรีย ซื้อบ้านในฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ด้วยราคา 7.5 ล้านปอนด์ และเรียกมันว่า “Beckingham Palace” (ล้อเลียนพระราชวังบัคกิ้งแฮม)

14.มหาวิทยาลัยสแตฟฟอร์ดเชอร์เคยเปิดสอนวิชา “เบ็คแฮมศึกษา” เพื่อศึกษานักเตะคนนี้โดยเฉพาะ (ปัจจุบันไม่เปิดสอนแล้ว)  แนวคิดของวิชานี้มาจากเหตุการณ์ในฟุตบอลโลกปี 1998 ของ เบ็คแฮม มีอิทธิพลต่อคนอังกฤษ ไม่ต่างจากเหตุการณ์สังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้ ที่มีอิทธิพลต่อคนอเมริกัน

15.เบ็คแฮม เคยโดน เซอร์ อเล็กซ์ เตะสตั๊ดใส่จนคิ้วแตก และเขาก็ย้ายออกจากแมนฯยูไนเต็ดไม่นานหลังจากนั้น

16.เดวิดสักเลข “99” ไว้ที่นิ้ว เพราะปี 1999 ถือเป็นปีทองของเขาทั้งคว้าเทรเบิ้ลแชมป์กับแมนฯยูไนเต็ด, แต่งงานกับ วิคตอเรีย และให้กำเนิด บรู๊คลิน ลูกชายคนแรก

17.เขายังสักชื่อภรรยาเป็นภาษาสันสกฤษด้วย แต่สะกดผิดเป็นคำว่า “Vihctoria”

David Beckham Victoria BeckhamGetty

18.ชื่อ “บรู๊คลิน” ลูกชายของเขามาจากการที่เดวิดรู้ว่า วิคตอเรีย ตั้งท้อง ตอนอยู่ที่บรู๊คลิน นิวยอร์ก

19.นักร้องชื่อดังอย่าง เอลตัน จอห์น เป็นพ่อทูนหัวของ บรู๊คลิน และ โรเมโอ เบ็คแฮม ในขณะที่ เอลิซาเบธ เฮอร์ลีย์ เป็นแม่ทูนหัว

20.ในปี 2001 รอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 2002 โซนยุโรป เกมที่ทีมชาติอังกฤษพบกับทีมชาติกรีซ เบ็คแฮม ซึ่งเป็นกัปตันในขณะนั้นยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย พาทัพสิงโตคำรามเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกได้สำเร็จ แต่ก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังจากแพ้ทีมชาติบราซิล 1-2

21.ฟุตบอลยูโร ปี 2004 เบ็คแฮม พลาดจุดโทษในเกมที่พบกับทีมชาติโปรตุเกส ทำให้ทีมชาติอังกฤษตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเช่นเดิม

22.งานแต่งของ เบ็คแฮม ใช้เงิน 628,000 ปอนด์ วิคตอเรีย สวมมงกุฎเพชร ในขณะที่ เดวิด ใส่สูทสีขาว ทั้งคู่ขายรูปงานแต่งให้กับ OK! Magazine ด้วยราคาสูงถึง 1.73 ล้านปอนด์

23.เบ็คแฮมไม่เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง “Bend it like Beckham” เขาและภรรยาเคยวางแผนมาเป็นดารารับเชิญ แต่ไม่มีตารางว่าง ผู้กำกับเลยใช้คนหน้าเหมือนอย่าง แอนดี้ ฮาร์เมอร์ แทน

24.ในปี 2003 เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา 2 ยักษ์ใหญ่จากสเปนต่างแย่งกันเซ็นสัญญากับ เบ็คแฮม แต่ก็เป็นฝั่งราชันชุดขาวที่ได้ลายเซ็นไป เขาถือเป็นหนึ่งในขุนพล “กาลาคติกอส” ร่วมกับโรนัลโด้, หลุยส์ ฟิโก้, ซีเนดีน ซีดานและโรแบร์โต้ คาร์ลอส ลงเล่น 4 ปี ทำได้ 13 ประตู

25.ในทีมเรอัล มาดริด เบอร์ 7 ที่เบ็คแฮมเคยใช้สมัยอยู่กับแมนฯยูไนเต็ด เป็นของราอูล ทำให้เขาเลือกเบอร์ 23 แทน ซึ่งเบอร์นี้เป็นเบอร์เดียวกับนักบาสเก็ตบอลชื่อดังอย่าง ไมเคิล จอร์แดน

26.เขาเซ็นสัญญาตลอดชีพมูลค่า 125 ล้านปอนด์กับอาดิดาส ในปี 2003 และยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากการขายสินค้าในชื่อของเขาด้วย

27.เบ็คแฮม เป็นนักแสดงรับเชิญร่วมกับ ซีดาน และ ราอูล ในภาพยนตร์เรื่อง “Goal!: The Dream Begins” ที่ออกฉายในปี 2005

Kuno Becker with Zidane, Beckham and Raúl

28.ฟุตบอลโลกปี 2006 คือฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ เบ็คแฮม เขายิงฟรีคิกใส่ทีมชาติเอกวาดอร์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็แพ้ทีมชาติโปรตุเกสในรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง

29.เบ็คแฮมคือนักเตะอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลก 3 ครั้งติดต่อกัน

30.ในปี 2007 แอลเอ กาแล็กซีขายเสื้อที่สกรีนชื่อ เบ็คแฮม ได้มากกว่า 250,000 ตัว ก่อนทีเขาจะเซ็นสัญญาเสียอีก

31.ทอม ครูซ จัดปาร์ตี้ชื่อ “ยินดีต้อนรับสู่แอลเอ” หลังจาก เบ็คแฮม เซ็นสัญญากับแอลเอ กาแล็กซี

32.ภายใน 48 ชั่วโมงหลัง เบ็คแฮม เซ็นสัญญา แอลเอ กาแล็กซีขายตั๋วปีได้มากกว่า 5,000 ใบ

33.ในภาพยนตร์เรื่อง “Love Actually” ที่ออกฉายเมื่อปี 2003 มีการกล่าวถึงเท้าซ้ายของเบ็คแฮมว่าเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของสหราชอาณาจักร

34.อาหารจานโปรดของ เบ็คแฮม คืออาหารประจำลอนดอนตะวันออกอย่าง “พายกับปลาไหลวุ้น” ครั้งหนึ่งตอนอยู่ปารีส เขาไม่สามารถหาอาหารชนิดนี้ได้ เขาจึงสั่งเดลิเวอรีทางเรือมาให้ที่โรงแรม

35.เบ็คแฮม เซอร์ไพรส์ วิคตอเรีย ด้วยการเปิดโรงกลั่นไวน์ที่นาปา (ไวน์ระดับโลกมักจะผลิตจากเมืองนี้) เพราะเขาทั้งคู่ชื่นชอบไวน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และโรงกลั่นแห่งนี้ก็เปิดไว้สำหรับครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น

36.เบ็คแฮม เป็นนักเตะจากสหราชอาณาจักรคนแรกที่ได้ลงเล่นครบ 100 นัดในแชมเปี้ยนส์ลีก

37.เบ็คแฮม เป็นคนอ่อนไหวง่าย เขาเคยให้สัมภาษณ์กับนิค กริมชอว์ ผ่าน BBC Radio One ในปี 2013 ว่า ภาพยนตร์เรื่อง “Armageddon” ที่นำแสดงโดย บรูซ วิลลิส ทำให้เขาร้องไห้ทุกครั้งที่ดู ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะคนส่วนใหญ่ก็เสียน้ำตากับเรื่องนี้ แต่เขาบอกว่าเขาร้องไห้กับซีรีย์อย่าง “Friends” และ “The Office” ด้วยนี่สิ

38.เบ็คแฮม เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ H&M ทำให้มีหุ่นขนาด 10 ฟุตของเขาสวมกางเกงในยืนอยู่หน้าร้านในนิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส และซานฟรานซิสโก

39.เบ็คแฮม เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 ประเทศคืออังกฤษ, สเปน, สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส

40.เบ็คแฮม ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) ทุกอย่างต้องถูกจัดเรียงอย่างแม่นยำ เขายังบอกอีกว่าตอนที่เขาอยู่ในโรงแรม เขามักจัดเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของในห้องใหม่ เพื่อให้เขารู้สึกสบายขึ้น เขายังชอบให้สิ่งของเป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าในตู้เย็นมีน้ำอัดลมวางเรียงมั่ว ๆ หรือไม่ลงล็อค เขาก็จะโยนอันนั้นทิ้งไปเพื่อให้มันตรงเป๊ะ

41.เบ็คแฮม เซ็นสัญญา 5 เดือนร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมงในปี 2013 และมอบค่าเหนื่อยทั้งหมดให้กับองค์กรการกุศลเพื่อเด็ก คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

42.ในช่วงแรกของการฝึกซ้อมกับเปแอสเช มีนักข่าวกว่า 150 คนมารอถ่ายรูปเขาในสนาม

43.ทุกทีมที่ เบ็คแฮม ไปค้าแข้งด้วย (ยกเว้นถูกยืมตัว) ทีมนั้นจะคว้าแชมป์ลีกอย่างต่ำ 1 ครั้ง แชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัยกับแมนฯยูไนเต็ด, ปี 2007 ฤดูกาลสุดท้ายกับเรอัล มาดริด เป็นการคว้าแชมป์ลาลีก้า ครั้งแรกในรอบ 4 ปี, แอลเอ กาแล็กซี ได้แชมป์เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ติดต่อกันในปี 2011 และ 2012, เปแอสเชคว้าแชมป์ลีกเอิงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994

44.เบ็คแฮม เป็นหนึ่งในเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อ “อินเตอร์ ไมอามี” ทีมใหม่แห่งลีกอเมริกา

45.ในปี 2015 เบ็คแฮม ร่วมมือกับยูนิเซฟ ตั้งกองทุนชื่อ “7: The David Beckham UNICEF Fund” เพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ทั่วโลก

46.เบ็คแฮม เคยบอกว่าหากเขาไม่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาอยากเป็นศิลปิน เพราะชอบวาดรูปการ์ตูน

47.เบ็คแฮม ยังเซ็นสัญญากับอาร์มานี, ไดเอท โค้ก, เบอร์เกอร์ คิงและซัมซุง ซึ่งทำกำไรให้เขามากถึง 21 ล้านปอนด์ ในปี 2012 เพียงปีเดียว

48.แอลเอ กาแล็กซีสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เบ็คแฮม ที่ Dignity Health Sports Park ในปี 2019

David Beckham LA Galaxy statue 2019Meg Oliphant

49.เบ็คแฮมมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 300 ล้านปอนด์ เช่นเดียวกับภรรยาของเขา ซึ่งมากกว่าราชินีอลิซาเบธที่ 2 เสียอีก

50.เบ็คแฮมเป็น “ornithophobia” หรือโรคกลัวนก

โฆษณา