แกรี เนวิลล์ ออกโรงวิจารณ์การทำงานของ รูเบน อโมริม กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ในช่วงหลังมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะมากเกินจำเป็น
เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ตกอยู่ในความกดดันอีกครั้งหลังพาทีมบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด 3-1 เก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ ซึ่งความพ่ายแพ้เกมล่าสุดทำให้ทีมของเขายังไม่เคยเก็บชัยชนะสองเกมติดในพรีเมียร์ลีกได้เลยนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม
หนึ่งในเรื่องที่ อโมริม ถูกวิจารณ์เรื่องการยึดมั่นในระบบ 3-4-3 ของเขา แม้กูรูต่าง ๆ จะวิเคราะห์ว่านักเตะในทีมไม่พร้อมเล่น รวมถึงการแก้เกมต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยช่วยให้ทีมผลงานดีขึ้นเท่าไร
ยิ่งช่วงหลัง เนวิลล์ ออกอาการส่ายหน้าที่ อโมริม มักจะเปลี่ยนนักเตะลงไปแต่ไม่เปลี่ยนระบบการยืน โดยจะใช้นักเตะไปยืนในระบบที่แตกต่างกันในแต่ละเกม อย่างเช่นการขยับ ดิโอโก ดาโลต์ จากวิงแบ็คขวา ไปวิงแบ็คซ้าย หรือย้ายมายืนสามเซ็นเตอร์ในเกมเดียวก็เคยทำมาแล้ว
โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เขาใช้ เมสัน เมาท์ มายืนวิงแบ็คซ้ายอีกครั้ง ซึ่งทำเอา เนวิลล์ ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าเขาไม่รู้สึกรู้สากับผลการแข่งขันของทีมอีกแล้ว แสดงความกังวลขึ้นมาอีกครั้ง




“ผมเป็นห่วงมากจริง ๆ มันไม่มีเหตุผลที่ผมจะนั่งอยู่ที่นี่ และบอกว่าผมไม่ทุกข์ใจ” เนวิลล์ เผยกับ NBC Sports
“ผมเห็นบางสิ่งท้ายเกมกับ กริมสบี้ ที่พวกเขาตกรอบคาราบาว คัพ หลายสัปดาห์ก่อน ซึ่ง เมสัน เมาท์ ไปเล่นวิงแบ็คซ้ายช่วงท้ายเกม
“เราชื่นชมกุนซือที่ทั้งดื้อและยืดหยุ่นกับระบบของพวกเขา เราอยากให้พวกเขายึดมั่นในแผน แต่เมื่อคุณเห็น เมสัน เมาท์ ลงไปเล่นแบ็คซ้าย มันดูโง่ไปหน่อยนะ
“มันเกิดขึ้นมาสองรอบแล้ว และมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก ครั้งแรกที่ผมเห็นมันก็แทบให้อภัยไม่ได้แล้วนะ และเมื่อวานนี้มันก็เกิดขึ้นอีก
“ผมเป็นห่วง เป็นห่วงมากจริง ๆ ผมจะไม่พูดอะไรแบบนั้นออกโทรทัศน์ เพราะผมรู้ดีว่าอาชีพกุนซือมันยากแค่ไหน ในการบอกว่ากุนซือคนนี้คนนั้นสมควรโดนปลด แต่ผมได้แต่สงสัยว่าบอร์ดบริหารอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือไม่”
