แอนโธนี เทย์เลอร์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ BBC โดยเปิดใจคุยเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจตัวเขาและครอบครัว หลังเกมนัดชิงฯ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2023
ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ ทำหน้าที่ตัดสินนัดชิงฯดำ ยูโรป้า โดยเกมนั้นเขาแจกใบเหลืองฝั่ง รวมมากถึง 13 ใบ และมีจังหวะค้านสายตาฝั่งหมาป่ากรุงโรม ด้วยถึงการปฏิเสธให้จุดโทษในเกม ก่อนที่จะไปลงเอยด้วยการยิงจุดโทษตัดสินซึ่ง โรมา เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
หลังเกม มูรินโญ โกรธจัดพร้อมด่า เทย์เลอร์ ว่า “อัปยศ” ถึงสองครั้ง รวมถึงการไปดักรอเผชิญหน้าที่ลานจอดรถ จนทำให้กุนซือโปรตุกีส โดนแบนสี่เกมมาแล้ว
หลังจากนั้น เขาและครอบครัวถูกแฟน โรมา รุมล้อมและด่าทอที่สนามบินในบูดาเปสต์ ซึ่งสร้างแผลในจิตใจให้ตัวเขาและครอบครัวจนถึงทุกวันนี้
“มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาในเรื่องการถูกด่าทอ ไม่ใช่แค่เพราะผมเดินทางกับครอบครัวในตอนนั้น แต่เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของพฤติกรรมคนที่มีผลต่อคนบางกลุ่ม โดยที่ในเกมนั้นไม่มีความผิดพลาดร้ายแรงเลยก็ตาม”
“สำหรับผม มันเป็นความรู้สึกผิดหวัง หงุดหงิด และอารมณ์โกรธ ทำไมพฤติกรรมแบบนั้นถึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ผมไม่เข้าใจเลย เพราะผมมั่นใจว่าคนพวกนั้นคงไม่อยากให้ใครมาพูดแบบนั้นกับตัวเองหรือกับลูก ๆ ของพวกเขาหรอก”
“มันทำให้ผมคิดย้อนกลับไปว่า การพาครอบครัวเดินทางไปด้วยเป็นความผิดพลาดหรือเปล่า ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ไม่เคยมาชมเกมอีกเลย
หลังจากนั้น เขาถูกถามต่อ ว่าคอมเมนต์ของ โจเซ มูรินโญ มีส่วนปลุกระดมให้แฟนบอลมารุมด่าทอเขาและครอบครัวหรือไม่ “ใช่แล้ว ว่าตามตรง ผมคิดว่าเป็นแบบนั้น”
หลังจากนั้น เทย์เลอร์ พูดถึงระบบ VAR ที่เข้ามาช่วยการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งผ่านมาราว 5-6 ปี ยังมีการใช้ที่ไม่ได้ช่วยให้การตัดสินถูกต้องไปทั้งหมด และมักจะค้านสายตาแฟนบอลอยู่เป็นระยะ ซึ่ง เทย์เลอร์ มองว่า VAR ส่งผลเสียในการทำให้แฟนบอลคาดหวังความสมบูรณ์แบบ กลับกันมันยิ่งส่งผลเสียต่อการทำหน้าที่เพราะทำให้คนกลัวการตัดสินที่ผิดพลาด
“ความคาดหวังและการวิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีกที่เข้มข้นทำให้ทุกคนอยากได้ความสมบูรณ์แบบจากผู้ตัดสิน แต่ในความจริง ความสมบูรณ์แบบมันไม่มีอยู่จริง เราคาดหวังให้ผู้ตัดสินตัดสินถูกทุกจังหวะ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้”
“VAR ทำให้ผู้คนเชื่อว่าจะไม่มีการตัดสินพลาดอีก ทุกอย่างจะถูกแก้ไข ทำให้ถูกต้อง แต่ความเป็นจริงคือมันไม่ใช่เลย บางสัปดาห์แฟนบอลบอกว่า ‘ไม่อยากให้ VAR เข้ามายุ่งมากเกินไป’ แต่พอสัปดาห์ถัดมา VAR ไม่เข้ามาช่วย ก็จะบ่นว่า ‘นี่มันเรื่องอัปยศ VAR อยู่ไหนกัน’ ผู้คนต้องตัดสินได้แล้วว่าจริง ๆ แล้วอยากให้มันเป็นแบบไหน”
“เราต้องยอมรับว่ามนุษย์ทำผิดพลาดได้ ถ้าเราไม่สร้างบรรยากาศที่ให้คนทำงานโดยไม่กลัวความล้มเหลว มันจะส่งผลเสียต่อทั้งบุคคลและคุณภาพของการตัดสินในระยะยาวได้”


